กฎหมายคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน ได้แก่ พระราชบัญญัติเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 โดยจะมีผลกระทบกับผู้ใช้คอมพิวเตอร์ อินเทอร์เน็ตโดยทั่วไป และผู้ให้บริการรวมถึงหน่วยงานต่างๆที่เปิดบริการอินเทอร์เน็ตให้แก่ผู้อื่นหรือกลุ่มพนักงาน/นักศึกษาในองค์กรผู้ใช้งาน คอมพิวเตอร์ ทุกคนจึงมีหน้าที่ที่จะต้องทำความเข้าใจ และปฏิบัติตาม พ.ร.บ. ว่าด้วยการ กระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550รวมทั้งระบบคอมพิวเตอร์ด้วยความระมัดระวังไม่กระทำความผิดโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์รวมถึงการมความรู้เกี่ยวกับกฎหมายคอมพิวเตอร์ยังช่วย
ให้ไม่ตกเป็นเหยื่อของพวกมิจฉาชีพอีกด้วย คอมพิวเตอร์และอินเทอร์เน็ต
1) การใช้ชื่อและนามแฝง ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถใช้ชื่อปลอม นามแฝง หรือให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานภาพและอายุซึ่งไม่ใช่ข้อมูลที่เป็นจริงหากบุคคลดังกล่าวมิได้เขียนข้อความทำร้ายผู้ อื่น ก็จะไม่มีผลแต่ประการใด
2) การพนันออนไลน์ ตามกฎหมายได้แบ่งการพนันออกเป็น 2 ประเภท คือ ประเภทที่ห้ามเล่นโดยเด็ดขาดและประเภทที่เล่นได้แต่ต้องขออนุญาตจากเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติก่อนซึ่งในปัจจุบันจะเห็นว่ามีเว็บไซต์เกี่ยวกับการพนันอยู่มากมาย เช่น ไพ่ สล็อตแมชชีน
3) ความรับผิดชอบของผู้ดูแลเว็บไซต์ กรณีที่มีบุคคลเข้ามาเขียนกระทู้โพสต์ข้อความ หรือรูปที่ทำให้บุคคลอื่นได้รับความเสียหาย โพสต์ภาพโป๊ อนาจาร หรือข้อความพาดพิงสถาบัน ถือว่า บุคคลนั้นมีความผิดทางอาญา
4) การดาวน์โหลดเพลง เพลงถือเป็นงานที่มีลิขสิทธิ์ ห้ามทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสารธารณชนโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของถือเป็นความผิด การอัปโหลดเพลงขึ้นไปอยู่ในโลกอิน เทอร์เน็ตจึงถือเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์
5) ไฮเปอร์ลิงก์ หรือการ “ลิงก์” เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลแต่ละเว็บไซต์บนโลกอินเทอร์เน็ตเข้าด้วย
กันการลิงก์อาจเกิดปัญหาขึ้นไดหากเป็นการนำข้อมูลจากเว็บไซต์อื่นๆ มาเปิดเผย การลิงก์ข้อมูล จากเว็บไซต์อื่น
6) การซื้อโปรแกรมลิขสิทธิ์และนำมาคัดลอกแจกผู้อื่น โปรแกรมลิขสิทธิ์เป็นโปรแกรมที่ถูกต้องตามกฎหมายและมีราคาแพง จึงมีผู้ทำโปรแกรมออกมาจำหน่ายมากมาย
7) อีเมลขยะ อีเมลขยะก่อให้เกิดความรำคาญแก่ผู้ที่ใช้อีเมล ผู้ส่งอีเมลขยะอาจทราบที่อยู่อีเมลด้วยวิธีการต่างๆ เช่น การฝังโปรแกรมคุกกี้ตามเว็บไซต์ที่มีผู้ใช้อีเมลเข้าไปดู เป็นต้น โดยบริษัทผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตฟ้องร้องบริษัทที่ส่งอีเมลขยะไปยังลูกค้าของตน
สิ่งที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตไม่ควรปฏิบัติ เนื่องจากอาจก่อให้เกิดความผิดตามพระราชบัญญัติ มีดังนี้
1). การเปิดเผย password แก่บุคคลอื่น
2). การให้ผู้อื่นใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์เคลื่อนที่เพื่อเข้าอินเทอร์เน็ต
3). การติดตั้งระบบเครือข่ายไร้สายในบ้านหรือที่ทำงานโดยไม่ใช้มาตรการการตรวจสอบผู้ใช้งานและการเข้ารหัสลับ
4). การเข้าระบบด้วย user ID และ password ของบุคคลอื่น
5). การนำ user ID และ password ของผู้อื่นไปใช้งานหรือเผยแพร่
6). การส่งต่อภาพถ่าย ภาพเคลื่อนไหว หรือข้อความที่ผิดกฎหมาย
7). การใช้เครื่องสาธารณะ โดยเลือกใช้ remember me หรือ remember password ในการ log in
8). การเขียนข่าวหรือข้อมูลที่เป็นเท็จ |