การวัดการกระจายและการวัดตำแหน่งของข้อมูล
การวัดการกระจายของข้อมูล หมายถึงการคำนวณว่าข้อมูลชุดใดชุดหนึ่งกระจาย
ออกจากกัน หรืออยู่ห่างกันมากน้อยเพียงใด ถ้าคะแนนของข้อมูลในชุดใดอยู่ห่าง
กันน้อยหรือมีขนาดใกล้เคียงกัน เรียกว่าข้อมูลชุดนั้นมีการกระจายน้อย แต่
ถ้าคะแนนของข้อมูลในชุดใดอยู่ห่างกันมาก เรียกว่าข้อมูลชุดนั้นมีการกระจายมาก
การวัดการกระจายของข้อมูล สามารถทำได้ ดังนี้ คือ
1. พิสัย (Range)
หมายถึง ความแตกต่างระหว่างคะแนนสูงสุดกับคะแนนต่ำสุดในข้อมูลชุดหนึ่งๆ
พิสัยใช้ในการวัดการกระจายของข้อมูลได้ไม่ละเอียดนัก นิยมใช้กรณีเมื่อต้องการ
ความรวดเร็วเท่านั้น ข้อเสียของพิสัยของข้อมูลแต่ละชุด คือมีการใช้เฉพาะ
คะแนนสูงสุดและคะแนนต่ำสุดเท่านั้น บางครั้งทำให้เกิดการเข้าใจถึงลักษณะ
ของข้อมูลผิดไปได้
2. ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์ (Quartile Deviation)
หมายถึง ครึ่งหนึ่งของระยะจากควอร์ไทล์ที่ 3 (Q3) ถึงควอร์ไทล์ที่ 1 (Q1)
ของคะแนนในชุดนั้นๆ ส่วนเบี่ยงเบนควอร์ไทล์เป็นการวัดการกระจายของข้อมูล
กรณีที่ใช้การวัดแนวโน้มเข้าสู่ส่วนกลางด้วยมัธยฐาน
3. ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ย (Mean Deviation)
หมายถึง ผลเฉลี่ยของส่วนเบี่ยงเบนของคะแนนในข้อมูลชุดหนึ่งจากมัชฌิม
เลขคณิตของ ข้อมูลชุดนั้น ซึ่งได้จากการรวมผลต่างระหว่างคะแนนแต่ละคะแนน
กับค่ามัชฌิมเลขคณิตของข้อมูล ชุดนั้นแล้วหารด้วยจำนวนข้อมูลทั้งหมด
4. ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ในการวัดการกระจายโดยใช้ส่วนเบี่ยงเบนเฉลี่ยนั้นมีปัญหาในเรื่องการใช้
เครื่องหมายสัมบูรณ์ (Absolute Value) ซึ่งทำให้ค่าที่วัดได้ลดความเชื่อถือไป
จึงมีการคิดวิธีวัด
การกระจายโดยการยกกำลังสองของผลต่างระหว่างคะแนนกับ มัชฌิมเลขคณิตของ
ข้อมูลชุดนั้นแล้วถอดรากที่ 2 ของส่วนเบี่ยงเบนยกกำลังสองเฉลี่ย เป็นวิธีการ
วัดการกระจายที่ เรียกว่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation) |