จำนวนผู้เข้าชม
 

 

หน่วยที่ 1 ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสังคมออนไลน์


          ปัจจุบันการติดต่อสื่อสารเป็นไปอย่างรวดเร็วและกว้างขวางมากยิ่งขึ้น คือ การติดต่อสื่อสารในโลอินเทอร์เน็ต หรือที่เรียกกันว่า สังคมออนไลน์ ซึ่งมีหลายประเภท ได้แก่ สังคมการสนทนา เช่น Facebook,Line หรือสังคมสื่อสารได้แก่ จดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Mail) และสังคมแห่งการเรียนรู้ เช่น (E-Leaning) ที่เป็นระบบการเรียนรู้ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ตสังคมออนไลน์จึงเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ที่มีผู้ใช้เพิ่มมากขึ้น และก้าวเข้าสู้เทคโรโลยีอินเทอร์เน็ตสังคมออนไลน์มากยิ่งขึ้น

ความหมายของสังคมออนไลน์
          สังคมออนไลน์ ตรงกับภาษาอังกฤษว่า “Social Online” หรือ Social Media ซึ่งนิยมเรียกกัน คือ Social Media มีความหมายดังต่อไปนี้
          คำว่า “Social” หมายถึง สังคม ในที่นี้จะหมายถึงสังคมออนไลน์ ซึ่งมีขนาดใหญ่มากในปัจจุบัน ส่วนคำว่า “Media” หมายถึง สื่อ ก็คือ เนื้อหา เรื่องราว บทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น
          ดังนั้น คำว่า Social Media จึงหมายถึง สื่อสังคมออนไลน์ที่มีการตอบสนองทางสังคมได้หลายทิศทางโดยผ่ารเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ในรูปแบบบทความ วิดีโอ เพลง รูปภาพ ฯลฯ โดยผ่านโซเซียลเน็ตเวิร์ก (Social Network)

ประเภทของสังคมออนไลน์
1.Weblogs
        Weblog (อ่านว่า เวบ-บล็อก )หรือ เรียกสั้นๆว่า Blog (อ่านว่า บล็อก) คือ Website หนึ่งที่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ที่ผู้เขียนต้องการสื่อสารในเรื่องราวต่างๆที่ต้องการ โดยสามารถนำเสนอได้ทั้งในรูปแบบของตัวอักษร รูปภาพ ภาพเคลื่อนไหว และเสียง และสามารถ update และเพิ่มเติมเนื้อหาเดิมได้ตลอด หรือจะเขียนเป็นลักษณะไดอะรี่ส่วนตัวก็ยังได้นะคะ ซึ่งBlog มีความแตกต่างจาก Webboard คือ Blog มีความเป็นเนื้อหาที่กว้างขวาง มีเนื้อหาที่น่าสนใจ หลากหลาย และส่วนหนึ่งเป็นเนื้อหาที่มีความน่าเชื่อถือ ให้ความรู้ได้ต่อเนื่อง และเราสามารถเป็นผู้เขียนและเป็นเจ้าของเรื่องราวที่จะนำเสนอเองได้ โดยบางwebsite เปิดโอกาสให้เราได้สมัครสมาชิกเป็นเจ้าของ Bloggang ของเราเองได้ด้วย

 https://sites.google.com/site/technologysvc/_/rsrc/1449489723594/prapheth-khxng-sangkhm-xxnlin/Blog_Close01.jpg?height=258&width=400

 2. Social Networking
        โซเชียลเน็ตเวิร์ค หรือ Social Network คือเครือข่ายสังคมออนไลน์  หรือการที่ผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตคนหนึ่ง เชื่อมโยงกับเพื่อนอีกนับสิบ รวมไปถึงเพื่อนของเพื่อนอีกนับร้อย  ผ่านผู้ให้บริการด้านโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) บนอินเตอร์เน็ต เช่น Facebook, Blogger, Hi5, Twitter หรือ Tagged เป็นต้น (บางเว็บไซต์ที่กล่าวถึงในตัวอย่าง ปัจจุบันนี้ได้เสื่อมความนิยมแล้ว)  การเชื่อมโยงดังกล่าว ทำให้เกิดเครือข่ายขึ้น เช่น เราสามารถรู้จักเพื่อนของเพื่อนเราได้  เป็นทอดๆ ต่อไปเรื่อย  ทำให้เกิดสังคมเสมือนจริงขึ้นมา  สามารถสร้างคอนเน็คชั่นใหม่ๆ ได้ง่าย  และเมื่อเราแชร์ (Share) ข้อความหรืออะไรก็ตามลงไปในเครือข่าย  ทุกคนในเครือข่ายก็สามารถรับรู้ได้พร้อมกัน  และสามารถตอบสนองต่อสิ่งที่เราแชร์ได้  เช่น  แสดงความคิดเห็น (Comment)  กดไลค์ (Like) ซึ่งอาจจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละผู้ให้บริการ  ความโดดเด่นในเรื่องความง่ายของโซเชียลเน็ตเวิร์ค (Social Network) ทำให้ธุรกิจ และนักการตลาดสนใจที่จะใช้เป็นเครื่องมือในการประชาสัมพันธ์สินค้า และบริการ

https://sites.google.com/site/technologysvc/_/rsrc/1449490243537/prapheth-khxng-sangkhm-xxnlin/1.jpg?height=180&width=320
3.Micro Blogging
        Micro blogging คือการที่เราโพสข้อความสั้นๆ สู่เว็บไซต์และเมื่อเราพูดสั้นๆ เราก็หมายถึงแบบนั้นจริงๆ การโพสบน micro blogging เรามักจะเรียกว่าอัพเดท (หรือในเว็บที่ได้รับความนิยมมากจะนิยมเรียกว่า tweet) มีการจำกัดตัวอักษรที่ 140 ตัวอักษร รวมไปถึงการเว้นวรรค ได้แรงบันดาลใจมากจากการส่งข้อความ text message ธรรมดาที่ใช้ส่งจากมือถือไปยังมือถือ เช่น Twitter

https://sites.google.com/site/technologysvc/_/rsrc/1449490590429/prapheth-khxng-sangkhm-xxnlin/twitter%281%29.jpg

 

4.Online video
         เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการวิดีโอออนไลน์โดยไม่เสียค่าใช้จ่า ซึ่งปัจจุบันได้รับความนิยมกันอย่าวแพร่หลายและขยายตัวอย่างรวดเร็ว เนื่องจากเนื้อหาที่นำเสนอในวิดีโอออนไลน์ไม่ถูกจำกัดโดยผังรายการที่แน่นอน ทำให้ผู้ใช้บริการสามารถติดตามชมได้อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งผู้ใช้สามารถชมเนื้อหาได้ตามต้องการ โดยเฉพาะการดูแลโทรทัศน์ย้อนหลัง และยังสามารถจัดทำวิดีโอนำเสนอผลงานนหรือเนื้อหาที่สนใจเพื่อให้ผู้อื้นเข้ามาดูได้อีกด้วย เช่น Youtube , MSN , Yahoo
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

5.Photo sharing
        สำหรับบริการ Photo-sharing นั้น จะทำงานร่วมกับ Photo Stream ครับ โดยผู้ใช้งานสามารถแชร์รูปภาพ หรืออัลบั้มภาพให้ผู้อื่นดูได้ อีกทั้งยังสามารถคอมเมนต์ได้อีกด้วย ต่างจากในปัจจุบันที่เป็นการแชร์ไฟล์ให้เฉพาะอุปกรณ์ของผู้ใช้งานเท่านั้น นอกจากบริการแชร์รูปภาพ หรือ Photo-sharing แล้ว ยังมีบริการ Video syncing หรือการซิงค์วิดีโอส่วนตัวขึ้นไปเก็บไว้บน iCloud อีกด้วย
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ flickr

 6.Wikis
        เป็นเว็บไซต์ที่มีลักษณะเป็นแหล่งข้อมูลหรือความรู้ (Data/Knowledge) ซึ่งผู้เขียนส่วนใหญ่อาจจะเป็นนักวิชาการ นักวิชาชีพหรือผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและการศึกษา ซึ่งผู้ใช้สามารถเขียนหรือก้ไขข้อมูลได้อย่างอิสระ เช่น Wikipedia , Google Earth
รูปภาพที่เกี่ยวข้อง
7.Virual worlds
        โลกเสมือนจริง (Virtual World) คือ โลกเสมือน 3 มิติที่ถูกสร้างขึ้นใน Cyber Space โดยใช้โปรแกรมสำเร็จรูปผ่านการเชื่อมโยงทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ทต่างๆ โดยเน้นให้ผู้เล่นหรือผู้ใช้ทั่วโลก ต่างมีความสัมพันธ์ซึ่งกันและกันในรูปแบบต่างๆ ที่หลากหลาย อิทธิพลของ Virtual World ส่งผลให้เด็กและเยาวชน และผู้ใหญ่เอง เกิดความหลงใหล มีจำนวนผู้เข้าไปในโลกแห่งนี้ทวีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ โลกเสมือน 3 มิติหรือโลกเสมือนจริง ในปัจจุบัน มีตัวอย่างให้พวกเราได้เห็นกันหลายรูปแบบ
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ second life
 8.Crowd Sourcing
        “Crowdsourcing” คือการร่วมสร้างสรรค์ของกลุ่มคน (Crowd) เพื่อร่วมกันทำ หรือสร้างสิ่งต่างๆ รวมถึงแก้ไขปัญหาร่วมกัน จนกลายเป็นเทรนด์ฮิต ของการทำกิจกรรมในการตลาดออนไลน์ผ่าน Digital Campaign และการโฆษณาออนไลน์
Crowdsourcing เป็นเรื่องที่กำลังถูกพูดถึงมากในธุรกิจออนไลน์ และเป็นแนวโน้มของเทคโนโลยีและผู้ให้บริการ Web-service, Hosting และ Application ต่างๆ กำลังให้ความสำคัญ เพราะกลุ่มเมฆนี้มีมูลค่าสูงและทรงพลัง Crowdsourcing ถอดออกมาเป็นคำว่า Crowd และ Outsourcing เป็นการกระจายปัญหาหรือวัตถุประสงค์บางอย่างเพื่อให้กลุ่มคนหรือชุมชนออนไลน์ มาร่วมกันแก้ปัญหาหรือทำอะไรตามวัตถุประสงค์นั้นๆ ยกตัวอย่างใกล้ตัวอย่าง Wikipedia สารานุกรม ออนไลน์ ที่ประชากร อาสาสมัคร Cyber ทุกคนสามารถเข้ามาร่วมกันสร้างสรรค์และแก้เนื้อหาได้
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ enterprise dashboard digest
 9.Podcasting หรือ podcast
           คือขั้นตอนของการเผยแพร่เสียง รวมไปถึงการพูดคุย เล่าเรื่อง สนทนาเรื่องต่างๆ ผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ต เริ่มได้รับความนิยมในช่วงปลายปี พ.ศ. 2547 โดยผู้รับฟังสามารถสมัครที่จะเลือกรับฟังเสียงหรือเพลง (โดยปกติจะเป็นในลักษณะ MP3) ผ่านทางระบบฟีด (feed) โดยตัวฟีดนี้จะทำงานอัตโนมัติ เพื่อทำการดาวน์โหลดไฟล์มัลติมีเดียต่าง ๆ เข้าสู่ คอมพิวเตอร์ หรือเครื่องเล่นเพลงแบบพกพา (หรือที่เรียกว่า MP3 เพลเยอร์)
จุดเริ่มต้นเมื่อเดือนเมษายน ปี พ.ศ. 2547 โดยความคิดของอดัม เคอรรี่ ร่วมกับเดฟ วินเนอร์ สร้างโปรแกรม iPodder ขึ้นมา เพื่อเป็นการนำข้อมูลเสียงจากอินเทอร์เน็ตผ่านโปรแกรมบรรจุลงไปที่เครื่องเล่น MP3 ชื่อ ไอพอด
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ the mac app store
10. Discuss/Review/Opinion
           เป็นเว็บบอร์ดที่ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสามารถแสดงความคิดเห็น โดยอาจจะเกี่ยวกับสินค้าหรือบริการ ประเด็นสาธารณะทางการเมือง เศรษฐกิจ สังคม เช่น Epinions , Moutshut , Yahoo! Answer, Pantip , Yelp

 

วัตถุประสงค์ของสังคมออนไลน์
สังคมออนไลน์ (Social Network) ที่เผยเเพร่ในโลกอินเทอร์เน็ต มีวัตถุประสงค์ในการใช้งาน ดังนี้
1. เผยเพร่ตัวตน (Identity network) เป็นสื่อสังคมออนไลน์ที่มุ่งเน้นการนำเสนอตัวตนของผู้ใช้งานเรื่องราวของตัวเอง ภาพถ่ายของตัวเอง สิ่งที่ตัวเองชอบหรือสนใจ ความคิดเห็น ความรู้สึกที่มีต่องสิ่งต่างๆ เว็บไซต์ที่มีดังกล่าว ได้เเก่ facebook , Myspace เป็นต้น
        2.เผลเเพร่ผลงาน (Creative network) เป็นเว็บไซต์ที่เน้นผลงานของเจ้าของเว็บไซต์มากกว่าตัวตนของเจ้าของผลงาน เช่น Coroflot
        3.ความสนใจตรงกัน (Interested network) เว็บไซต์ประเภทนี้คล้ายๆ กับเว็บไซต์เผยแพร่ผลงาน เช่น Digg , Zickr เป็นต้น
        4.โลกเสมือน (Virtual life/Game online) เป็นลักษณะการจำลองตัวของผู้ใช้งานเป็นตัวละครตัวหนึ่งในเกมส์หรือสถานะการสมมติ     โดยในระหว่างเล่นสามารถพูดคุยหรือสื่อสารกับผู้เล่นอื่นๆได้ ทำให้มีลักษณะเป็น Social network เเบบหนึ่ง เช่น The SIM เป็นต้น

 

ประโยชน์ของสังคมออนไลน์
    1.ใช้เเลกเปลี่ยนข้อมูลความรู้ในสิ่งสนใจร่วมกันได้
    2.เป็นคลังความรู้ขนาดใหญ่ ที่สามารถเข้าไปคนหาข้อมูลได้
    3.ประหยัดค่าใช้จ่ายในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอื่น
    4.เป็นสื่อในการนำเสนอผลงานของตนเอง
    5.ใช้เป็นสื่อในการโฆษณา
    6.ช่วยสร้างรายได้ให้เเก่ผู้ใช้งาน
    7.ช่วยให้มีการผ่อนคลายจากการทำงาน
    8.สร้างความสำพันธ์ที่ดีจากเพื่อนสู่เพื่อนได้

 โทษของสังคมออนไลน์
    สังคมออนไลน์ถึงเเม้จะมีประโยชน์มากมาย  เเต่ก็มีโทษอยู่บ้าง  ฉะนั้น  ผู้ใช้ต้องพึงใช้ในส่วนที่เป็นประโยชน์ให้มาก  เเละป้องกันมิให้เกิดผลเสียจากการใช้สังคมออนไลน์ ทั้งนี้ โทษของสังคมออนไลน์มีดังนี้
    1. เว็บไซต์ให้บริการบางแห่งอาจจะเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวมากเกินไป
    2. สังคมออนไลน์เป็นสังคมที่กว้าง
    3. เป็นช่องทางในการถูกละเมิดลิขสิทธิ์
    4. ข้อมูลต้องกรอกเพื่อสมัครสมาชิกเเละเเสดงบนเว็บไซต์ในรูปแบบสังคมออนไลน์
    5. ผู้ที่เข้าใช้สังคมออนไลน์เเละอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานอาจสายตาเสียได้
    6. ถ้าผู้ใช้หมกมุ่นอยู่กับหน้าจอมากเกินไป อาจทำให้เสียการเรียนหรือผลการเรียนตกต่ำลงได้

ข้อควรระวังเกี่ยวกับสังคมออนไลน์
    1. พึงตะหนักว่า ข้อความหรือความเห็นที่เผยเเพร่บนสังคมออนไลน์ เป็นข้อความที่สามารถเข้าถึงได้โดยสาธารณะ
    2. ใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง
    3. ต้องไม่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของผู้อื่น
    4. พึงตะหนักว่าการใช้สังคมออนไลน์
    5. หากต้องการสร้าง page หรือ Account ที่เป็นช่องทางในการเผยเเพร่ข้อมูลอย่างเป็นทางการ

ระบบ Social Network
ระบบ Social Network หรือระบบสังคมออนไลน์บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ประกอบด้วย อุปกรณ์ ฮาร์ดเเวร์ เเละอุปกรณ์เครือข่าย ดังนี้
ฮาร์ดแวร์ ประกอบด้วย
คอมพิวเตอร์ คือ เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ใช้งานทั่วไปไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (PC) หรือคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค (Notebook) 
สมาร์ทโฟน (smartPhone)  คือ โทรศัพท์มือถือที่นอกเหนือจากใช้โทรออก-รับสายแล้ว ยังมีแอพพลิเคชั่นให้ใช้งานมากมาย สามารถรองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน 3G, Youtube, Facebook, Twiter ฯลฯ โดยที่ผู้ใช้สามารถปรับแต่งลูกเล่นการใช้งานสมาร์ทโฟนให้ตรงกับความต้องการได้ากกว่าโทรศัพท์มือถือธรรมดา
สมาร์ททีวี (Smart TV)  เป็นการพัฒณาจากโทรทัศน์แบบ LCD มาเป็น Smart TV ซึ่งนอกจากจะดูโทรทัศน์ปกติแล้ว ยังใช้ในรูปแบบของสังคมออนไลน์ (Social Network) คือ สามารถที่จะเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตได้
แท็บเล็ต (Tablet)  คือ อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่มีหน้าจอระบบสัมผัสขนาดใหญ่ มีขนาดหน้าจอตั้งเเต่ 7 นิ้วขึ้นไป พกพา ได้สะดวก สามารถใช้งานหน้าจอผ่านการสัมผัสกับปลายนิ้วได้โดยตรง มีแอพพลิเคชั่นมากมายให้เลือกใช้ ไม่ว่าจะรับ-ส่งอีเมล เล่นอินเทอร์เน็ต ดูหนัง ฟังเพลง เล่นเกมส์ หรือแม้เเต่กระทั่งใช้ทำงานเอกสารในออฟฟิศ

อุปกรณ์เครือข่าย 
เซิร์ฟเวอร์ (Server) คือ เครื่องหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ซึ่งทำงานให้บริการ ในระบบเครือข่ายแก่ลูกข่าย (ซึ่งให้บริการผู้ใช้อีกทีหนึ่ง) เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่เป็นเซิร์ฟเวอร์นี้ควรจะมีประสิทธิภาพสูง มีความเสถียร สามารถให้บริการแก่ผู้ใช้ได้เป็นจำนวนมาก ภายในเซิร์ฟเวอร์ให้บริการได้ด้วยโปรแกรมบริการ ซึ่งทำงานอยู่บนระบบปฏิบัติการอีกชั้นหนึ่ง
ไคลเอนต์ (Client) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องลูกข่าย เป็นคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายที่ร้องขอ บริการและเข้าถึงไฟล์ข้อมูลที่จัดเก็บในเซิร์ฟเวอร์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ไคลเอนต์ เป็นคอมพิวเตอร์ ของผู้ใช้แต่ละคนในระบบเครือข่าย(Client) หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า เครื่องลูกข่าย เป็นคอมพิวเตอร์ในเครือข่ายที่ร้องขอ บริการและเข้าถึงไฟล์ข้อมูลที่จัดเก็บในเซิร์ฟเวอร์ หรือพูดง่าย ๆ ก็คือ ไคลเอนต์ เป็นคอมพิวเตอร์ ของผู้ใช้แต่ละคนในระบบเครือข่าย
ฮับ (HUB) หรือรีพีตเตอร์ (Repeater) เป็นอุปกรณ์ที่ทวน และขยายสัญญาณ เพื่อส่งต่อไปยังอุปกรณ์อื่น ให้ได้ระยะทางที่ยาวไกลขึ้น ไม่มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลก่อนและหลัง การรับ-ส่ง และไม่มีการใช้ซอฟท์แวร์ใดๆ มาเกี่ยวข้องกับอุปกรณ์ชนิดนี้ การติดตั้งจึงทำได้ง่าย ข้อเสียคือ ความเร็วในการส่งข้อมูล จะเฉลี่ยลดลงเท่ากันทุกเครื่อง เมื่อมีคอมพิวเตอร์มาเชื่อมต่อมากขึ้น
เน็ตเวิร์ก สวิตช์ (Switch) เป็นอุปกรณ์เครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมกลุ่มเครือข่ายหรืออุปกรณ์เครือข่ายเข้าด้วยกัน โดยทั่วไปคำๆนี้หมายถึง network bridge หรือสะพานเครือข่ายหลายพอร์ตที่ประมวลและจัดเส้นทางข้อมูลที่ชั้นเชื่อมโยงข้อมูล (data link layer - เลเยอร์ 2) ของแบบจำลองโอเอสไอ. สวิตช์ที่ประมวลข้อมูลที่เลเยอร์ 3 และสูงกว่ามักจะเรียกว่าสวิตช์เลเยอร์ 3 หรือมัลติเลเยอร์สวิตช์
เราท์เตอร์ (Router) เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ที่ทำหน้าที่หาเส้นทางและส่ง(forward)แพ็กเกตข้อมูลระหว่างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ ไปยังเครือข่ายปลายทางที่ต้องการ เราเตอร์ทำงานบนเลเยอร์ที่ 3 ตามมาตรฐานของ OSI Model เราเตอร์เชื่อมต่อเข้ากับสองเส้นทางหรือมากกว่าจากเครือข่ายที่แตกต่างกัน (ต่างจากสวิทช์ที่เชื่อมต่อสายข้อมูลภายในเครือข่ายเดียวกัน) เมื่อแพ็คเก็ตข้อมูลเข้ามาจากเส้นทางหนึ่ง เราเตอร์จะอ่านข้อมูล address ที่อยู่ในแพ็คเก็ตเพื่อค้นหาปลายทางสุดท้าย จากนั้น, ด้วยข้อมูลในตารางเส้นทางหรือนโยบายการส่ง, จะส่งแพ็กเก็ตไปยังเครือข่ายข้างหน้าตามเส้นทางนั้น เราเตอร์จะดำเนินการ "กำกับการจราจร" บนเส้นทางนั้นด้วย แพ็คเก็ตข้อมูลโดยทั่วไปจะถูกส่งจากเราเตอร์หนึ่งไปยังอีกเราเตอร์หนึ่งผ่านเครือข่ายที่เป็น Internetwork จนกว่าจะถึงโหนดปลายทาง

บริดจ์ (Bridge) เป็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมส่วนต่าง ๆ ของเครือข่ายท้องถิ่นเข้าด้วยกัน บริดจ์ใช้ในการติดต่อสื่อสารข้อมูลระหว่างเครือข่ายแลน 2 เครือข่ายที่มีโพรโทคอลเหมือนกันหรือต่างกัน บริดจ์จะรับแพ็กเกตข้อมูลจากสถานีส่ง ผู้ส่งในเครือข่ายต้นทางทำการตรวจสอบตำแหน่งปลายทาง จากนั้นก็จะส่งแพ็กเกตข้อมูลทั้งหมดนั้นไปยังผู้ใช้เครือข่ายปลายทาง
เกตเวย์ (Gateway) เป็นอุปกรณ์ที่มีความสามารถสูงในการเชื่อมต่อเครือข่ายต่างๆ เข้าด้วยกัน โดยสามารถเชื่อมต่อ LAN หลายๆ เครือข่ายที่ใช้โปรโตคอลต่างกัน และใช้สื่อส่งข้อมูลต่างชนิดกันได้อย่างไม่มีขีดจำกัด ตัวอย่างเช่น เชื่อมต่อ Ethernet LAN ที่ใช้สายส่งแบบ UTP เข้ากับ Token Ring LAN ได้

สรุปท้ายหน่วย
สังคมออนไลน์ หรือที่เรียก Social Network เป็นสังคมที่สามารถติดต่อสื่อสารได้อย่างกว้างขวาง และใช้ในการเรียนรู้ด้านต่างๆ อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของบทความ วีดีโอ เพลง รูปภาพ เป็นต้น โดยผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก (Social Network) ที่ให้บริการบนโลกออนไลน์ แต่ทั้งนี้ สังคมออนไลน์ก็ยังมีข้อที่ต้องระมัดระวัง เพราะมีผู้ไม่ประสงค์ดีเข้ามาหลอกลวง ผู้ใช้จริงต้องมีความระมัดระวังให้มาก ผู้ที่เข้าใช้ระบบสังคมออนไลน์จะต้องเรียนรู้อุปกรณ์เครือข่ายและฮาร์ดแวร์ที่ใช้ให้เหมาะสม โดยในปัจจุบันมีอุปกรณ์ที่ทันสมัยมากขึ้น ไม่ว่าเป็นสมาร์ททีวี หรือ สมาร์ทโฟน

 



แบบฝึกหัด
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 1
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 2
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 3
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 4
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 5
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 6
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 7
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 8
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 9
แบบฝึกหัดหน่วยที่ 10
 
ผู้จัดทำ
 
 
หน้าแรก
วิทยาลัยการอาชีพสตึก 100 หมู่ที่ 23 ถ. บุรีรัมย์-มหาสารคาม ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ 31150 โทร. 0-4468-0114 , 08-1955-1489 Fax 0-4468-0208
SATUK INDUSTRIAL AND COMMUNITY EDUCATION COLLEGE ----Email: stuksticc@gmail.com